มีโอกาสได้มาเดินเที่ยวที่ ณ สัทธาอุทยานไทย อุทยานแห่งการเรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย นำเสนอด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ผสานกันอย่างกลมกลืน สถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี
ที่นี่โอบล้อมด้วยพื้นที่กว่า 42 ไร่ ด้วยต้นไม้ทั้งน้อยใหญ่อายุนับสิบปี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่เดินทางสะดวกและใกล้กรุงเทพฯ เพียงชั่วโมงเศษๆ
อีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ปลูกฝังรากเหง้าแห่งความเป็นไทยเพื่อการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะไทยที่งดงาม
ตลอดจนศึกษาประวัติของผู้มีชื่อเสียงและพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วเมืองไทยในรูปแบบหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสส์ขนาดเสมือนจริงกว่า 60 รูป ผ่านเทคนิคจัดแสดงและวิธีการนำเสนอรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยมาประยุกต์ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ และเกิดการจดจำที่สนุกสนานยิ่งกว่าเดิม ตอกย้ำเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งที่ว่า “เราอยากให้ที่นี่เป็นที่พักผ่อนใจ มาเก็บรับเอาความสุขกลับไป”
ณ สัทธา อุทยานไทย เดิมใช้ชื่อว่า “อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม” เกิดขึ้นจากความตั้งใจ และความคิดของผู้ก่อตั้งซึ่งมีรากฐานการเริ่มต้นของงานมาจากงานหล่อพระพุทธรูป งานหล่อประติมากรรมรูปปั้นต่างๆ นับจากอดีตจนสู่ปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 60 ปี จากประสบการณ์ทำให้ผู้ก่อตั้งมีความคิดที่จะสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมรูปเหมือนของพระสงฆ์รูปต่างๆ ซึ่งจำพรรษาในกุฏิ และรูปเหมือนบุคคลสำคัญต่างๆ ที่ท่านผู้ก่อตั้งมีความศรัทธายกย่องในด้านแนวความคิดในการทำงาน และการดำเนินชีวิตจนประสบความสำเร็จ รวมทั้งรูปเหมือนวิถีชีวิตวัฒนธรรมความเป็นไทยในภาคต่างๆ ของประเทศไทย
ธรรมวิทย์ ศิริพรเลิศ หรือ เซี๊ยะ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร บริษัท ณสัทธา จำกัด ดูแลบริหารงานภายใน ณ สัทธา อุทยานไทย ซึ่งเปิดดำเนินการมายาวนานกว่า 11 ปี ภายใต้ชื่อ อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม เล่าว่า ได้ทำการปรับปรุงให้มีความร่วมสมัยและนำเทคโนโลยีสื่อผสมมาใช้ในการบอกเล่าประวัติของบุคคลสำคัญ, พุทธชาดกและอื่นๆเพื่อให้เข้าถึงเยาวชนมากยิ่งขึ้นตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการสืบสานวัฒนธรรมไทยให้อยู่คู่ ประเทศไทยอย่างยั่งยืน
อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยามเปิดทำการเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ก่อนจะปิดปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อเป็น “ณ สัทธา อุทยานไทย” ในปัจจุบัน และเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ทุกจุดจัดแสดงใช้วิธีเล่าเรื่องผ่าน “วีดีโอไกด์” ที่รับชมได้ทางแอปพลิเคชัน “ณ สัทธา / NASATTA” (สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฎิบัติการ IOS และ Android) ผ่านสัญญาณ Wi-Fi ที่ให้บริการอยู่ทั่วบริเวณจัดแสดง ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ อาทิ Interactive Game, AR, Photo Frame ให้ทุกท่านได้ร่วมสนุกไปกับการ์ตูนสั้น วีดีโอคลิป ภาพยนตร์สั้น ภาพจำลองเสมือนจริง ตลอดจนสื่อผสมอื่นๆ อาทิ Projector Mapping แบบ 270 องศา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเยี่ยมชม
แม้แต่การลงทะเบียนเข้าชมก็ทันสมัยไม่แพ้ใคร
ที่นี่มี Mascot น้อง “ปีติ” ถือเป็นมาสคอตตัวแทนของ ณ สัทธา อุทยานไทย ที่ต้องการส่งต่อเรื่องราวคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ผ่านการนำเสนอที่น่าสนใจ เพื่อนำไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของเยาวชน มีแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากดอกกัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดราชบุรี พร้อมสัญลักษณ์ ปีติ คือ วงกลมสีแดง ที่สื่อถึง ณ สัทธา อุทยานไทย
จุดจัดแสดง ภายใน ณ สัทธา แบ่งจุดจัดแสดงออกเป็น 8 โซนหลัก ได้แก่
- ห้องไทยสัทธา เป็นห้องแสดงภาพรวม แนวคิด และประวัติความเป็นมาของ ณ สัทธา อุทยานไทย
- จุดที่ 1 มหาราชกษัตรา เป็นจุดจัดแสดงประติมากรรมพระรูปหล่อ 3 บูรพมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชไทย
- จุดที่ 2 สัทธานุสรณ์ เป็นอาคารจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสของบุคคลสำคัญผู้เป็นต้นแบบ คนดีของแผ่นดิน กว่า 14 ท่าน
- จุดที่ 3 ณ สัทธาปฎิมา จัดแสดงประติมากรรมพระพุทธรูป 3 สมัย
- จุดที่ 4 ถ้ำพุทธชาดก เป็นถ้ำจำลองที่นำเสนอเรื่องราวขององคุลีมาล มหาโจรผู้กลับใจเข้าสู่ธรรมะ
- จุดที่ 5 อริยสัทธา จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสส์พระอริยสงฆ์ที่เป็นที่เลื่อมใสทั่วประเทศไทย
- จุดที่ 6 สัทธาถิ่นเรือนไทย โซนบ้านไทย 4 ภาค จำลองวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยเสมือนจริง
- จุดที่ 7 ลานภิรมย์ เป็นลานกลางแจ้งที่จัดแสดงศิลปะและความงดงามของต้นบอนไซหลากหลายขนาด
- จุดที่ 8 ลานอวโลสัทธา เป็นลานจัดแสดงพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา จำลองจากศิลปะของราชวงศ์ซ้อง ประเทศจีน
จุดไฮไลต์ สิ่งที่ถือเป็นไฮไลต์เด่นของ ณ สัทธา อุทยานไทย ที่ผู้มาเยี่ยมชมไม่ควรพลาด ได้แก่
- วิหารสมัยสุโขทัย ในโซน ณ สัทธาปฎิมา ใช้เทคนิค Mapping เล่าเรื่องราวการเดินทางของพระพุทธศาสนาสู่ประเทศไทยในสมัยอาณาจักรสุโขทัย ผ่านแสง สี เสียง และแสดงภาพบนผนังโบสถ์และองค์พระพุทธรูป
- ถ้ำพุทธชาดก เล่าเรื่องราวขององคุลีมาลเถระ มหาโจรที่ปล้นฆ่าและตัดนิ้วมือคนมากถึง 999 คน ก่อนจะกลับใจเข้าสู่ธรรมะและบรรลุเป็นพระอรหันต์ นำเสนอผ่านเทคนิคแสง สี เสียง ที่ตระการตา
- Audio Guide ที่ไม่ได้มีแค่เสียง หากแต่มีภาพประกอบทั้งแบบวีดีโอ และการ์ตูนแอนนิเมชัน - Interactive Game, AR, Photo Frame ที่อยู่ตามจุดจัดแสดงต่างๆ รับชมได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน เพื่อให้การเยี่ยมชมของคุณมีทั้งสาระ ความรู้ และความสนุกสนานกว่าเดิม
- บ้านสมุนไพร ให้คุณได้แวะพักคลายร้อนด้วยน้ำสมุนไพรต่างๆ ที่ทั้งหอมหวานและเย็นชื่นใจ
นอกจากนี้ภายในบริเวณ ณ สัทธา อุทยานไทย ยังมีมุมน้ำตกจำลองที่รอบข้างแวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิดสร้างความร่วมรื่นได้เป็นอย่างดี และชุ่มชื่นไปกับสายน้ำที่เย็นสบายในช่วงกลางวัน ให้คุณได้พักผ่อน คลายร้อน และดื่มด่ำกับบรรยากาศสดชื่น
พื้นที่บริการภายใน ณ สัทธา อุทยานไทย ได้แก่
- ร้านอาหารรสสัทธา บริการอาหารปรุงสด-ใหม่ ให้คุณเลือกอร่อยได้ตามความต้องการ
- ไทยกาแฟ THAI-KAFE ร้านกาแฟสุดเก๋ในอาคารทรง 8 เหลี่ยม อยู่บริเวณด้านหน้าก่อนเข้าพื้นที่จัดแสดง ภายในอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย
- ร้านบ้านสมุนไพร จำหน่ายน้ำสมุนไพรเพื่อดับกระหาย สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มชา-กาแฟ ให้บริการน้ำสมุนไพรสารพัดชนิดที่มาพร้อมขนมอีกมากมาย
- ร้านกาแฟ หน้าน้ำตก เพื่อเพิ่มอรรถรสของการดื่มกาแฟในบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติ เคล้าไปกับเสียงน้ำตกที่อยู่ไม่ไกล
- อาคารห้องประชุมและจัดเลี้ยง พื้นที่รองรับการจัดสัมมนา พร้อมอุปกรณ์การประชุมที่ครบครัน และมีบริการทั้งอาหารว่างและมื้ออาหารหลัก สามารถจัดได้ทั้งแบบในอาคารและนอกอาคาร
- ลานไท ณ สัทธา ลานจัดกิจกรรม Workshop ที่สามารถจัดได้หลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับทุกคน
- ณ สัทธา Shop ร้านขายของที่ระลึก ที่ละลานตาไปด้วยสินค้าท้องถิ่นหลากหลายชนิด ให้คุณได้เลือกกลับไปฝากคนที่คุณรัก
แต่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชี่ยลกับการแสดงประดับไฟสุดอลังการ ในคอนเซ็ปท์ เส้นแสงแห่งสัทธา หรือ NaSatta Alive ที่ ณ สัทธา Festival 2018 ตอน มหัศจรรย์แห่งความเบิกบาน
ก่อนอื่นเข้าไปเช่าชุดไทยกันก่อนที่นี่เขาจะมีให้บริการ เป็นชุดสวยๆดูดี แบบไม่ใช่การแต่งกายชาวบ้านๆ แต่จะดูเป็นย้อนยุคมีระดับ
จุดที่ 1 มหาราชกษัตรา “แผ่นดินทอง” Golden Siam
แนวคิดไฟประดับ ความรุ่งเรืองของพุทธศาสนา นำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขบนผืนแผ่นดินไทยทุกยุคทุกสมัย ลายเส้นไฟประดับร้อยเรียงเป็นภาพวัดสำคัญในแต่ละยุคสมัย ตั้งเด่นเป็นฉากหลังของสามมหาราชไทยที่ประดิษฐานเป็นสง่า ณ ลานมหาราชกษัตรา วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร : วัดในเขตพระราชฐานประจำรัชสมัย เบื้องหลังสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา : วัดเด่นสมัยอยุธยา เบื้องหลังสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร : วัดประจำรัชกาลที่ 5 เบื้องหลังพระบรมรูปสมเด็จพระปิยมหาราช
จุดที่ 2 ทางเดินหน้าอาคาร ณ สัทธานุสรณ์ “เส้นทางสู่สวรรค์” Paradise Route แนวคิดไฟประดับ ทางเดินและพื้นที่ประดับประดา ตกแต่งไปด้วยเม็ดไฟสีน้ำเงิน-ขาว ทั่วบริเวณ สร้างความรู้สึกราวกำลังเดินในแดนสวรรค์ ให้ความรู้สึกรื่นรมย์ สบายตา ปลุกพลังบวก ก่อนที่พาท่านไปสู่โซน ณ สัทธาปฏิมา 3 สมัย
จุดที่ 3 ณ สัทธาปฏิมา 3 สมัย ลานหญ้าหน้าฐานพระ “ดอกบัวบานที่ ณ สัทธา” Blossom Lotus แนวคิดไฟประดับ ประติมากรรมกลีบบัวที่ทั่วบริเวณลานสนามหญ้าในโซน ณ สัทธาปฏิมา 3 สมัย สะท้อนถึงการแสดงความเคารพต่อองค์พระพุทธรูปทั้งสามสมัยในบริเวณนี้ “ดอกบัว” เป็นสัญลักษณ์แห่งความดี ความบริสุทธิ์ จิตใจที่ผ่องแผ้วสดใสไม่หมองมัว และความศรัทธา มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ทั้งนี้ยังหมายถึง “พุทธะ” ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน การตรัสรู้บรรลุธรรม เมื่อเปรียบกับดอกบัวที่เคยอยู่ใต้โคลนตมได้โผล่พ้นน้ำออกมาเบ่งบานรับแสงตะวันในที่สุด
ฐานพระสมัยอยุธยา-อู่ทอง “ประทีปแห่งปัญญา” The Light of Wisdom แนวคิดไฟประดับ แสงเทียนส่องสว่าง เปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ส่องทางสู่ใจเราทุกคน
ฐานพระสมัยเชียงแสน “แสงแห่งศรัทธา” The Great Homage แนวคิดไฟประดับ ดอกบัวประดับไฟเรืองรองทั่วบริเวณนี้ เพื่อบูชาองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ดอกบัวสีชมพู ตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา จัดเป็นบัวที่ประเสริฐสุด และนับเป็นดอกบัวซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ประกอบกับการตกแต่งไฟบริเวณฐานพระ เพื่อสร้างความรู้สึกให้ฐานพระที่เป็นร่องรอยของประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
จากที่เราเห็นตอนกลางวัน พอมาชมกลางคืนจะสวยงามขึ้นอีกมาก
จุดที่ 4 ลานภิรมย์ “อุโมงค์ดอกไม้” แนวคิดไฟประดับ อุโมงค์ยาวประดับไฟลายดอกไม้สว่างไสวสวยงาม ราวกับกำลังเดินในความฝันอันงดงาม ก่อนที่จะพาท่านไปตื่นตาตื่นใจไปกับพื้นที่ถัดไป
จุดที่ 5 ลานอวโลสัทธา “ต้นไม้แห่งการอธิษฐาน” Wishing Tree แนวคิดไฟประดับ รอบบริเวณต้นไม้ใหญ่ หน้าลานพระอวโลติเกศวร ประดับล้อมด้วยม่านไฟสีชมพู เชื่อมโยงกับสีดอกกัลปพฤกษ์ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดราชบุรี และจัดเป็นดอกไม้มงคล มีประวัติเกี่ยวข้องกับความเชื่อทางพุทธศาสนามาต่อเนื่องยาวนาน
ในคัมภีร์ไตรภูมิกถา (ไตรภูมิพระร่วง) กล่าวถึงต้นกัลปพฤกษ์ว่าเป็น “ต้นไม้สารพัดนึก” เป็นต้นไม้อยู่บนสวรรค์ สำหรับโลกมนุษย์ ต้นกัลปพฤกษ์จะมาบังเกิดเมื่อพระศรีอาริยเมตไตรยมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป โดยต้นกัลปพฤกษ์จะขึ้นอยู่ที่ประตูเมืองทั้ง 4 ด้าน ใครต้องการสิ่งของอะไรก็ไปอธิษฐานขอเอาจากต้นกัลปพฤกษ์ดังกล่าวนั้นได้ทุกคน
เก็บตกบางมุม
อัตราค่าเข้าชม และบริการต่างๆ ค่าเข้าชม กลางวัน คนไทย 200 บาท ต่างชาติ 400 บาท บัตรเข้าชมงานกลางคืน (18.00 – 22.00 น.) ราคา 350 บาท บัตรเข้าชมงานกลางคืนพร้อมคูปองอาหาร(มูลค่า 200 บาท) ราคา 500 บาท บัตรเข้าชมงานทั้งวัน ราคา 500 บาท
กลางคืนมีอาหารอร่อยหลายอย่าง ราคาไม่แพง เช่นไก่ย่างบางตาล
และมีของกินอีกสารพัด เรียกว่ารวมร้านเด็ดของราชบุรี
นอกจากนี้ภายใน ณ สัทธา อุทยานไทย ยังมีบริการอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่
- บริการเช่าชุดไทย สำหรับใส่เข้าเยี่ยมชม โดยมีราคาตั้งแต่ 200-450 บาท แล้วแต่แบบที่เลือกใส่
- บริการแพ็กเกจถ่ายภาพ โดยให้เช่าสถานที่บางจุดเพื่อการถ่ายภาพ มีอัตราค่าบริการวันละ 4,500 บาท สามารถถ่ายภาพได้ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น. (สำหรับทีมงานไม่เกิน 7 ท่าน)
- ร้านของของที่ระลึก
พาเพื่อนเดินเที่ยวให้ฉ่ำใจกัน มีมุมถ่ายรูปมากมาย
มุมถ่ายรูปเยอะมากๆ
วัน - เวลา ให้บริการ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00 – 16.30 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 8.30 – 17.00 น.สามารถติดต่อ ณ สัทธา ผ่านช่องทาง ดังนี้ เว็บไซต์ : www.nasatta.com, อีเมล : info@nasatta.com, Twitter / Instagram: @nasatta_thai, Facebook : Nasatta.thai, Youtube Channel : NaSatta, Line@ : @nasatta โทรศัพท์: 032 – 383 – 333 โทรสาร: 032 – 383 - 444
กลางวันถ่ายสวยแบบหนึ่ง กลางคืนก็สวยอีกแบบ
ที่อยู่ : 41/1 หมู่ที่ 3 ถนนเพชรเกษม - ดำเนินสะดวก ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี 70160
ขอบคุณที่ติดตามการเดินทางของ Travelista นักเดินทางนะคะ