แม้สถานการณ์โควิด -19 จะยังไม่นิ่ง และยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงง่ายๆ แต่กลุ่มแอคคอร์เดินหน้าสวนกระแส ด้วยการวางแผนเปิดโรงแรม 37 แห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมถึงโรงแรมใหม่ๆ อีกหลายแห่งทั่วโลก แอคคอร์ (Accor) เริ่มต้นปีด้วยแผนการพัฒนาโรงแรม และแผนกำหนดการเปิดโรงแรมใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และทั่วโลก
แม้ปี 2563 จะเป็นปีแห่งความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม แอคคอร์ ยังคงมีการพัฒนาต่อเนื่อง รวมถึงได้มีการเซ็นสัญญาในโครงการต่างๆ อันนำไปสู่การเปิดโรงแรมใหม่หลายแห่งตลอดปี 2564 นี้
“อย่างที่เราทราบกันดีว่า สถานการณ์ในปี 2563 ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเรา รวมถึงอุตสาหกรรมโรงแรมเป็นอย่างมาก ดังนั้นช่วงแรกของการฟื้นตัวจะมีความสำคัญเป็นอยากมาก” แอคเนส โรคฟอร์ท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาระดับโลกกล่าว
“แม้เราจะประสบกับความล่าช้าและการปิดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากการระบาดของโรค แต่โครงการพัฒนาของเรายังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าวัคซีนป้องกัน Covid-19 จะทำให้คนทั่วโลกกลับมามั่นใจในการเดินทางอีกครั้ง และรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น”
ความเข้มแข็งทางการเงิน เครือข่ายทั่วโลก และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ไม่เพียงแต่ทำให้บริษัทอยู่ในสถานะที่มั่นคงพร้อมรับมือกับความท้าทายในปี 2563 แต่ความสามารถในการพัฒนาและรูปแบบองค์กรทำให้บริษัทพร้อมให้การสนับสนุนและให้บริการแก่เจ้าของโรงแรม นักพัฒนา และพาร์ทเนอร์ได้อย่างต่อเนื่อง
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโรงแรมน่าสนใจที่กำลังจะเปิดตัว ได้แก่ วี วิลล่า ภูเก็ต – เอ็มแกลลอรี (V Villas Phuket – MGallery) พูลวิลล่า 24 หลัง พร้อมห้องอาหารที่โดดเด่น 5 แห่ง สระว่ายน้ำ สปาและศูนย์สุขภาพที่สวยงามบนเกาะภูเก็ตอันมีชื่อเสียงของประเทศไทย
แอดมิรัล โฮเทล มะนิลา – เอ็มแกลลอรี (Admiral Hotel Manila – MGallery) โรงแรมแห่งใหม่ในกรุงมะนิลาที่นำเสนอการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่างสไตล์สเปนและอาร์ตเดโคร่วมสมัย
ในสิงคโปร์จะมีการเปิดตัวโรงแรมภายใต้แบรนด์เอ็มแกลลอรีเป็นแห่งแรกกับ ออร์ชาร์ด ฮิลล์ เรสซิเดนซ์ สิงคโปร์ – เอ็มแกลเลอรี่ (Orchard Hills Residences Singapore – MGallery) ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนในทำเลใจกลางเมือง ใกล้กับการ์เด้นส์บายเดอะเบย์ มารีน่าเบย์ สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ และศูนย์การประชุมซันเทค
สำหรับประเทศเกาหลีใต้จะมีการเปิดตัวโรงแรมระดับลักซ์ชัวรี่สองแห่งในปีนี้ คือ แฟร์มอนต์ แอมบาสเดอร์ โซล (Fairmont Ambassador Seoul) เปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ ประกอบไปด้วยห้องพักและห้องสวีท 326 ห้องพร้อมวิวกรุงโซลที่สวยงาม สถานที่สำหรับการพบปะสังสรรค์ที่ยากจะลืมเลือน ทั้งห้องอาหารและบาร์บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม และเมืองหลวงแห่งนี้ยังจะเป็นที่ตั้งของ โซฟิเทล แอมบาสเดอร์ โซล โฮเทล & เซอวิส เรสซิเดนท์ (Sofitel Ambassador Seoul Hotel & Serviced Residences) ซึ่งจะเปิดให้บริการในปลายปี 2564 โดยจะตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบซอกชน (Seokchon Lake Park) ประกอบไปด้วยห้องพักและห้องสวีท 563 ห้อง ห้องอาหารที่ให้บริการตลอดวัน บาร์ สระว่ายน้ำทั้งในร่มและกลางแจ้ง อ่างจากุซซี่กลางแจ้ง ฟิตเนส สปา รวมถึงพื้นที่จัดประชุมและอีเว้นต์ต่างๆ
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เปิดตัวคอลเลกชั่นโรงแรมใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นในภูมิภาคของเราในปี 2564 นี้ แม้ 12 เดือนที่ผ่านมาจะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมของเรา เรายังคงเชื่อมั่นในอนาคตที่ดีของภาคการท่องเที่ยว เราดีใจที่ยังสามารถสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ด้วยความไว้วางใจจากเจ้าของ พาร์ทเนอร์ และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ โรงแรมใหม่เหล่านี้จะทำให้แขกของเราได้สัมผัสกับจุดหมายปลายทางที่หลากหลายในแบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับแขกทุกท่าน และส่งมอบประสบการณ์ที่ไร้ขีดจำกัดในโรงแรมต่างๆ ของเรา” การ์ธ ซิมมอนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอคคอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้กล่าว
โรงแรมในกลุ่มไลฟ์สไตล์ของแอคคอร์จะมีชีวิตชีวามากขึ้นในช่วงปีที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีการเปิดให้บริการโรงแรมไลฟ์สไตล์เพิ่มเป็นสามเท่าภายในปี 2566 ณ ปัจจุบัน รายได้จากโรงแรมกลุ่มไลฟ์สไตล์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5 % ของรายได้ต่อปีของบริษัท และคิดเป็นสัดส่วน 25% ของโครงการที่กำลังพัฒนาตามมูลค่า
การร่วมทุนล่าสุดกับ Ennismore ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 จะมีส่วนช่วยเพิ่มความหลากหลายและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นในปีนี้ด้วยโรงแรมที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใครซึ่งกำลังจะเปิดใหม่ เช่น มอนเดรียน ชอร์ดิทช์ ลอนดอน (Mondrian Shoreditch London)
JO&JOE เวียนนา เวสท์บาห์นฮอฟ (JO&JOE Vienna Westbahnhof) โซ / โซโตแกรนเดรีสอร์ทแอนด์สปา (SO/ Sotogrande Resort & Spa) เอสแอลเอส ดูไบ (SLS Dubai) และทเวนตี้ ไฟว์ อาวร์ ดูไบ (25hours Dubai)
กลุ่มโรงแรมลักซ์ชัวรี่ของแอคคอร์ที่จะเปิดใหม่ในปี 2564 เช่น บันยันทรี โดฮา (Banyan Tree Doha) ในกาตาร์ และการขยายแบรนด์ราฟเฟิลส์ (Raffles) ไปยังอุไดปูร์ ประเทศอินเดีย และเจดดาห์ประเทศซาอุดิอาราเบีย
สำหรับแบรนด์แฟร์มอนต์ (Fairmont) จะมีการเปิดตัว แฟร์มอนต์ เซนจูรี พลาซ่า (Fairmont Century Plaza) ในลอสแองเจลิส แฟร์มอนต์ วินเซอร์ (Fairmont Windsor) ในลอนดอน คาร์ตัน เฮาส์ (Carton House) โรงแรมที่บริหารโดยแฟร์มอนต์ในดับลิน แฟร์มอนต์ รามลา ริยาด (Fairmont Ramla Riyadh) แฟร์มอนต์ แอมบาสเดอร์ โซล (Fairmont Ambassador Seoul) และ แฟร์มอนต์ ทากาเซาท์ เบย์ (Fairmont Tagazhout Bay) ในโมร็อกโก
ส่วนโซฟิเทล (Sofitel) จะนำกลิ่นอายแบบฝรั่งเศสไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ต่างๆ ทั้ง โซล กวางโจว และแอดิเลด
ในปี 2564 จะมีโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงและจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในปีนี้และในอนาคต แอคคอร์ได้เป็นเป็นพันธมิตรกับเจ้าของโรงแรมอิสระผู้ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น การปรับตัว แบรนด์ที่แข็งแกร่ง และวัฒนธรรมที่สนับสนุนความเป็นเอกลักษณ์ ความหลากหลาย และแนวคิดของผู้ประกอบการ
ในกลุ่มแบรนด์ที่แข็งแกร่งของแอคคอร์นี้ มีกลุ่มแบรนด์ชั้นนำที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลง ได้แก่ เดอะ เฮ้าส์ ออฟ ออรอจินัล (The House of Originals) (ลักซ์ชัวรี่) เอ็มแกลลอรี (MGallery) (อัพเปอร์ พรีเมียม) เมอเวนพิค (Mövenpick) (พรีเมียม) แกรนด์ เมอร์เคียว (Grand Mercure) (พรีเมียม) เมอร์เคียว (Mercure) (มิดสเกล), ไอบิส สไตล์ (ibis Styles) (อีโคโนมี) และกรีท (greet) (บัทเจด)
แบรนด์เหล่านี้คิดเป็น 43% ของแผนการเปิดตัวโรงแรมในอีกห้าปีข้างหน้า ตัวอย่างเช่น เอ็มแกลลอรี (MGallery) ที่จะเปิดตัวโรงแรมในหลากหลายจุดหมายปลายทางในปีนี่ เช่น ออร์ชาร์ด ฮิลล์ เรสซิเดนซ์ สิงคโปร์ – เอ็มแกลเลอรี่ (Orchard Hills Residences Singapore – MGallery) เดอะ ซิลเวอรี่ ฮ่องกง – เอ็มแกลเลอรี่ (The Silveri HongKong - MGallery) และ เดอะ พอร์เทอร์ เฮาส์ โฮเทล – เอ็มแกลเลอรี่ (The Porter House Hotel - MGallery) ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
การโรงแรมใหม่ทั้งหมดจะสอดคล้องกับมาตรฐานด้านความสะอาดและสุขอนามัยของแอคคอร์ หรือ ALLSAFE โดยเครื่องหมาย ALLSAFE ได้ก่อตั้งขึ้นโดยแอคอร์ใรกลางปี 2563 เพื่อสร้างความมั่นใจแก่แขกในมาตรฐานความสะอาดของโรงแรมและข้อกำหนดด้านสุขอนามัยที่ผ่านการตรวจสอบโดยบุคคลที่สามมาตรฐานเหล่านี้ได้รับการพัฒนาและตรวจสอบโดยบูโรเวอริทัส ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกที่มีชื่อเสียงในด้านการตรวจสอบ วิเคราะห์ และการรับรองผลิตภัณฑ์