ตอนนี้นครพนมและแขวงคำม่วนในสปป.ลาวกำลังดัง เพราะมีดาราว่ายข้ามโขง ผู้เขียนเองเคยมีโอกาสไปเที่ยวเชื่อมโยง 2 ประเทศ ณ จุดนี้ถึง 2 ครั้ง ก็เลยขอนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
บางครั้งเมื่อเราไปเที่ยวนครพนม จะได้ยินคำว่า “ภูของเขา วิวของเรา” เพราะวิวภูเขาหินปูนในฝั่งลาวที่มองจากนครพนมสวยงดงามมาก
ในอดีตคืออาณาจักรโคตรบูรณ์ ที่มาของจังหวัดนครพนม นครพนมเป็นเมืองเก่าแก่ในประวัติศาสตร์ เป็นจังหวัดที่อยู่ไกลที่สุดในภาคอีสาน ดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขงแถบนี้ สมัยก่อนเคยเป็นอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ เป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองมากในดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำโขง ในยุคนั้นมีอาณาจักรล้านช้าง สิบสองจุไทย เวียงจันทน์ จำปาศักดิ์ อยุธยาตอนต้น และอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์
“นครพนม” เป็นจังหวัดหนึ่งของไทยที่ติดชายแดนสปป.ลาว และอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร นครพนม มุกดาหาร) นครพนมมีศักยภาพสูงทางด้านเศรษฐกิจ เพราะนอกจากความเจริญในหลายด้านแล้ว ยังมีการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างไทยลาวข้ามแม่น้ำโขง ถือเป็นแห่งที่ 3 โดยใช้งบในการก่อสร้างสะพานสูงถึง 1,700 ล้านบาท
ภายหลังสะพานแล้วเสร็จ การคมนาคมของ 2 ประเทศสะดวกขึ้นมาก สามารถท่องเที่ยว 2 ประเทศแบบ 2 วัน 1 คืน ไหว้พระธาตุ 2 แห่งดิน เนื่องจากพระธาตุทั้ง 2 แผ่นดินมีตำนานที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งในไทยคือพระธาตุพนม ส่วนในลาวคือพระธาตุศรีโคตรบอง ที่ท่าแขกในแขวงคำม่วน
ที่จริงที่เที่ยวนครพนมนั้นมีเยอะมากๆค่ะ แต่วันนี้ขอเล่าเพียงบางที่นะคะ
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นสถานที่เคารพสักการะทั้งของชาวไทยและชาวลาว พระธาตุพนมสร้างขึ้น ระหว่าง พ.ศ. 1200 – 1400 ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะพระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม กล่าวกันว่า ถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็นลูกพระธาตุ เป็นมงคลแก่ชีวิต พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีของผู้ที่เกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
ลานพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คอันศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครพนม องค์พญาศรีสัตตนาคราช หล่อด้วยทองเหลือง มีน้ำหนักรวม 9,000 กก. เป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ประดิษฐานบนแท่นฐานแปดเหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงทั้งหมดรวมฐาน 15 เมตร สามารถพ่นน้ำได้
การก่อสร้างครั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และความเชื่อเกี่ยวต่อเรื่องพญานาคของชาวไทย และชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อีกทั้งยังต้องการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นแลนมาร์กแห่งใหม่อีกจุดหนึ่งของภูมิภาคนี้
อุโมงค์นาคราช ส่วนหนึ่งของเส้นทางปั่นจักรยานริมแม่น้ำโขงของจังหวัดนครพนม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความงดงามของฝั่งแม่น้ำโขง
จังหวัดนครพนมมีการจัดทำเส้นทางจักรยานยาวกว่า 70 กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งอุโมงค์นาคราช ก็เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางจักรยานริมแม่น้ำโขงนั่นเอง
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 เป็นสะพานที่มีความยาวรวม 1,423 เมตร มีความกว้าง 13 เมตร และมีการช่องจราจร 2 ช่อง และไม่มีทางรถไฟ และเพื่อเป็นการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
จากนั้นได้มีโอกาสผ่านสะพานมิตรภาพเข้าไปเที่ยวที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว
ว้าวๆ วิวเขาหินปูนตระหง่านสวยงามมากค่ะ
ไปไหว้พระธาตุศรีโคตรบอง สถานที่เก็บอัฐธาตุของพระยาศรีโคตะบองที่ไปปราบช้างช่วยนครเวียงจันทร์ปัจจุบันจนประสบผลสำเร็จ ผู้ครองเมืองเวียงจันทร์ขณะนั้นยกเมืองให้ปกครองครึ่งหนึ่งดังปรากฏเมืองศรีโคตรที่นครเวียงจันทร์ในปัจจุบัน แต่ต่อมาภายหลังถูกถูกวางแผนฆ่าจนตาย ชาวเมืองศรีโคตะบองจึงนำอัฐิธาตุมาบรรจุไว้ในพระธาตุศรีโคตะบองนี้
ถ้ำนางแอ่น ภายในถ้ำปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบาย ในถ้ำประดับประดาไปด้วยหลอดไฟสีต่างๆ มีธารน้ำผ่านอยู่ในถ้ำหากไม่อยากเดินชมก็สามารถนั่งเรือชมได้ มีหินที่เกิดจากน้ำหยดสะสมกันมานานจะมีรูปร่างคล้ายศิวลิงค์ มีชื่อเรียกว่า"อ้ายเซียงเลียบ"
ไปชมกำแพงหินยักษ์ อันนี้ว้าว แปลกมากค่ะ ซึ่งมีลักษณะเหมือนหินก้อนใหญ่ซ้อนกันมีความสูงตั้งแต่ 5-10 เมตร คาดว่าเป็นร่องรอยของรอยเลื่อนท่าแขก มีธรณีสัณฐานแปลกตาแต่สวยงามมาก คนลาวว่ากันว่ายักษ์เป็นคนสร้าง มันก็แปลกจริงๆ ค่ะ เป็นสิ่งอีกหนึ่งมหัศจรรย์ของโลกก็ว่าได้
ก่อนเดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ศึกษาประวัติของท่านโฮจิมินห์ในยุคสงครามอินโดจีน
พร้อมหัดเต้นบัดสะโลปกับพี่น้องชาวลาว
หากไปเที่ยวนครพนม สามารถนั่งเรือแม่โขงพาราไดซ์ครุยส์ ชมความงามของไทย-ลาว ณริมฝั่งโขง ซึ่งเรือของไทยนั้นจะสามารถแล่นเข้าไปชมความงามของลาวได้ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ส่งผู้โดยสารขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องผ่านพิธีการทางตม.จากด่านริมน้ำหรือสะพานมิตรภาพที่เชื่อมโยง 2 ประเทศเท่านั้น
ประทับใจกับเมืองไทยและลาว ภายใต้ความต่างที่เป็นหนึ่งเดียว แม้พูดคนละภาษา ภาษาของใครของมัน แต่ก็ยังคุยกันรู้เรื่องนะคะ
ในอนาคตการท่องเที่ยวยังสามารถเปิดในลักษณะ 3 ประเทศ คือเชื่อมโยงจากไทยต่อไปยังลาวและเวียดนาม โดยระยะทางจากนครพนมไปยังท่าแขกในลาว แล้วต่อไปยังฮาติงในเวียดนามมีระยะทางเพียง 135 กิโลเมตร เรียกว่าใกล้กว่ามากรุงเทพฯด้วย ซึ่งในฮาติงยังมีมรดกโลกด้วย สามารถร้อยเรียงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตประจำวันของชาวชนบทไทย-ลาว-เวียดนาม ที่มีในแหล่งท่องเที่ยวสองฝั่งแม่น้ำโขง มาเชื่อมร้อยเป็นเนื้อหาการท่องเที่ยว
โดยสามารถเจาะไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ เช่น 1.กลุ่มที่สนใจประวัติศาสตร์ของสงครามอินโดจีน สนใจประวัติศาสตร์ผู้นำการเปลี่ยนแปลงของไทย-ลาว –เวียดนาม ที่มีเรื่องราวฝังแฝงอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น เมืองท่าแขก, บ้านเซียงหวาง, บ้านนาจอก เป็นต้น
2.กลุ่มที่สนใจสถาปัตยกรรมทางศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ตามลำน้ำโขง รวมถึงกลุ่มที่สนใจความสัมพันธ์ของความเชื่อศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ผสมผสานกันอยู่ในวิถีการดำเนินชีวิตของคนสองฝั่งโขง เช่น วัดพระธาตุพนม, วัดโอกาส, โบสถ์นักบุญอันนา
3.กลุ่มที่สนใจวิถีชีวิตประจำวันของคนสองฝั่งโขง เช่น การประกอบอาชีพ การใช้ชีวิตประจำวัน การสร้างเครื่องมือเครื่องใช้ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ลำน้ำโขง การล่องเรือสองฝั่งโขงเพื่อชมวิถีชีวิต หมู่บ้านชาวชนบทไทย-ลาว สองฝั่งโขง
#เที่ยวนครพนม #เที่ยวแขวงคำม่วน #เที่ยวท่าแขก #เที่ยวสปปลาว #Travelistaนักเดินทาง
เรื่องและภาพโดย Travelista นักเดินทาง
ลายน้ำของภาพโดย Ghost Writer Ta