Travelista นักเดินทาง
คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยกล้าไปกันเท่าไร แต่ที่จริงมาเลเซียเต็มเมืองนราธิวาส คนมาเลเยอะมากทั้งในร้านอาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารค่ำ เซเว่นคนมาเลเต็มหมด

พอลงเครื่องราวเที่ยงนิดๆ เราก็ไปที่ Summer Thon Café มุมถ่ายรูป เช็คอิน ชมบรรยากาศที่ทะเลนราธิวาส สีฟ้าเข้มสวยมาก ถูกเรียกว่าฮาวายเมืองไทย เป็นคาเฟ่สวยตึกสีขาวติดริมทะเลหาดบ้านทอน นราธิวาส ใกล้สนามบิน สามารถเห็นเครื่องบินขึ้นและลงได้ด้วย ร้านตกแต่งสวย มีโต๊ะให้เลือกนั่งเยอะ ข้าราชการจากมาเลเข้ามมาทานกันเต็มไปหมด

ที่นี่ถ่ายรูปสวยทุกมุมเลย ทะเลเงียบสงบ ที่ร้านมีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม จอดรถสะดวกสบาย เปิด 8:30 -20:30 ทุกวัน

จากนั้นไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์แล้ว ทางมหาวิทยาลัยได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งอาคาร สถานที่และบุคลากร โดยมุ่งหวังที่จะเป็นมหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาในศาสตร์ทุกสาขาที่มีความจำเป็นต้องสังคมและประเทศชาติ

จึงมีการจัดตั้งคณะ วิทยาลัยต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกสาขาวิชา โดยท่านอธิการบดี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ ปรีชา สะแลแม อธิการบดีมหาวิทยาลัย และทุกคณะต้อนรับดีมาก

ค่ำวันแรกที่ภัตตาคารมังกรทอง ร้านเก่าแก่ดั้งเดิมคู่จังหวัดนราธิวาสมากว่า 33 ปี ร้านอาหารที่รสชาติเด็ดสุด เข้มข้น เน้นหนักอาหารประเภทปลา กุ้ง ร้านอยู่ปากน้ำบางนรา มีระเบียงโล่งและเป็นแพยื่นลงไปในแม่น้ำมองเห็นวิวเขาตันหยง ลมเย็นสบาย จะเห็นเรือกอและของชาวบ้านวิ่งผ่านไปมา เปิดทุกวัน 10:00 -21:00 น. เมนูเด็ด เช่น แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว แกงไตปลา เป็ดกรอบ สลัดกุ้งทอด ปลาสำลีทอด ไก่สับเบตง ยำผักกูด ผัดสะตอกุ้งสด ปลากุเลาตากใบ ปลาหมอหยองแดดเดียวทอด บรรยากาศดี ทำเลที่ตั้งอยู่ติดริมน้ำบางนรา มีระเบียงโล่งและเป็นแพยื่นลงไปในแม่น้ำ

พักที่พรพันธุ์ษาบูธีคโฮเท็ล โรงแรมเล็กๆ แต่ก็นอนสบายมาก เป็นโรงแรมใหม่เอี่ยมในเมืองนราธิวาส อยู่ในซอยค่อนข้างสงบจากเสียงรถบนท้องถนน

เช้าวันที่ 2 ไปร้านน้ำชาต้นมะยมนราธิวาส คนเยอะจริงๆ อาหารก็เยอะมาก

ทั้งติ่มซำ บะกุ๊ดเต๋ ก๋วยจั๊บ หมูกรอบ ข้าวต้มปลา กุ้ง ข้าวต้มแห้ง ชา-กาแฟ ซาลาเปา ผัดหมี่ ขนม และเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย เปิดให้บริการ 06.00- 14.00 น.

ต่อมาเป็นการเป็นงานสักเล็กน้อยไปสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส พบกับซารีนา เจ๊ะเลาะ ประธานชมรมผู้นำมุสลีมะห์ นราธิวาส

ชื่นชมในความเสียสละเพื่อส่วนรวมที่ศูนย์ให้คำปรึกษาเสริมพลังสตรีจังหวัดนราธิวาส มีผู้นำเป็นสตรี เป็นภรรยา และเป็นมารดา ของบุตรหลานในพื้นที่ ขอบคุณสตรีทุกท่านที่กล้าขึ้นสู้ ร่วมสร้างความสวยงามและสร้างสันติสุขในพื้นที่

อุดหนุนน้ำพริกบูดูกันหน่อย

แล้วไปที่วัดประชุมชลธารา เป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนชาวตำบลสุไหงปาดี

นอกจากนี้ วัดประชุมชลธารา ยังเป็นสถานที่สำคัญในการจัดงานพิธีทางพระพุทธศาสนา งานพระราชพิธี งานประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ

ชมการแสดงมโนราห์

แล้วไปด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซียด้านอำเภอปาเซมัส รัฐกลันตัน มีแม่น้ำสุไหงโก-ลก กั้นเขตแดนไทย - มาเลเซีย ฟังเรื่องราวต่างๆในพื้นที่พอสังเขป การค้าคึกคักมาก พูดคุยกับท่านรองผู้ว่านราธิวาส วิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์

จากนั้นไปที่ตลาดซือปาแด เป็นตลาดวันเสาร์และอาทิตย์ ณ ชุมชนโปฮงยามู (ท่าชมพู่)

ติดชายแดนมาเลเลย วันนั้นไปไม่มีตลาด แต่ปกติจะมีกองทัพขนมพื้นบ้านที่หาทานได้ยาก อาหารท้องถิ่น และอาหารคาวหวานมากมาย กว่า 50 ร้านค้า คนมาเลจะข้ามมาซื้อของกินกัน

สงสัยว่าทำไมมาเลข้ามมาไทยง่ายจัง ก็เลยไปยืนดู ตรงข้ามฝั่งมันชิดกันมากเลยพรมแดน ข้ามแม่น้ำโกลก แบบนั่งเรือไม่ถึง 50 เมตร ชักรอกข้ามมาเองก็มี แบบมันข้ามกันง่ายมากไม่ต้องประทับตราอะไรเลย (เป็นสิทธิพิเศษของคนชายแดนที่ติดกัน) ข้ามไปมาสะดวกสบาย มีแม่น้ำแม่น้ำโก-ลก คั่นกลาง แม่น้ำนี้มีต้นกำเนิดที่ทิวเขาสันกาลาคีรีในอำเภอสุคิริน มีความยาว 103 กิโลเมตร บริเวณที่แม่น้ำไหลผ่าน เคยเป็นที่ตั้งของเหมืองทองคำหลายแห่ง ปัจจุบันก็ยังมีการร่อนทองคำอยู่

คุณสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ที่ทำงานแสนเข้มแข็งมากพาทัวร์และพูดคุยกันทำให้รู้เรื่องราวของพื้นที่

หลังจากนั้นเราได้เข้าพักที่โรงแรมเก็นติ้ง เป็นโรงแรมใหญ่ของอำเภอสุไหงโกลก อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟและด่านข้ามพรมแดนไทยมาเลเซีย

ไม่ไกลกันยังมี Street Art เก๋ๆอีกมากมาย

และยามเช้าก็มีตลาดเช้า อาหารเยอะจุง

ก่อนเดินทางไปร่วมงานลอยกระทงที่สวนสิรินธร อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ให้มีความสวยงามด้วยแสงสีเสียงตระการตา มีการแสดงของคณะนาฏศิลป์ชุดใหญ่ จับจ่ายสินค้า และอิ่มอร่อยกับอาหารหลากชนิด

แล้วฉันก็ได้ลอยกระทงใบน้อยๆของฉัน ณ ใต้สุดแดนสยามแล้ว

เช้าวันที่ 3 ไปที่ศูนย์ศิลปาชีพพิเศษพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เซรามิคและเครื่องปั้นดินเผา

เพื่อเสริมสร้างรายได้ และพัฒนาฝีมือแก่คนในท้องถิ่น

แวะไหว้ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล เจ้าแม่มาจู หรือเจ้าแม่ทับทิบคือเทพองค์เดียวกัน มีตำนานเรื่องเล่าที่มาของท่าน ณ เหมืองทองคำที่เขาโต๊ะโมะ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งชาวบ้านได้มีการตั้งศาลให้ท่านครั้งแรกที่บริเวณนั้น และต่อมาได้มีการจัดตั้งศาลที่อ.สุไหง โก-ลก จึงได้ตั้งชื่อศาลเจ้าตามแหล่งที่มา คือเขาโต๊ะโมะ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อตำบลภูเขาทอง

ก่อนปิดท้ายที่ร้านสวนกล้วย เป็นร้านข้าวแกงที่โด่งดังในอำเภอเมืองนราธิวาส ร้านนี้เป็นร้านที่ตั้งอยู่แบบแอบซ่อนในซอยเล็กๆ แต่ตัวร้านนั้นค่อนข้างกว้าง

อาหารเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคั่วกลิ้งหมู พะแนง ไข่พะโล้ แกงจืด แกงเหลืองฯลฯ ร้านนี้บริการน้ำพริกฟรีทุกโต๊ะ

แล้วอำลาสนามบินนราธิวาส

เดินทางกลับโดยไทยแอร์เอเชีย

แค่ชั่วโมงเศษๆก็ถึงกรุงเทพฯแล้ว

#สุขทันทีที่เที่ยวนราธิวาส #เที่ยวนราธิวาส #หลงเสน่ห์นราธิวาส #สุไหงโกลก #สุดเขตชายแดนใต้ #นราธิวาสเที่ยวไหนดี #พลโทสุรเทพหนูแก้ว #ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่5กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร #ผอศปป5กอรมน #dbจกรรมนำทัพสื่อมวลชนสัมพันธ์เสริมสร้างคุณภาพชีวิตจังหวัดนราธิวาส

เรื่องโดย Travelista นักเดินทาง (สาธิตา โสรัสสะ)

ขอขอบคุณ พลโทสุรเทพ หนูแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 สำนักงานปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก (ศปป.5กอรมน.) ในโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ เสริมสร้างคุณภาพชีวิต ณ จังหวัดนราธิวาส ที่พามาในทริปนี้