ในปี 2025 มีหลายเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อวงการประกันภัยรถยนต์เต็มๆ การปรับตัวและการจับเทรนด์ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนไป จึงจำเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย
เป็นที่มาของงาน InsureX FORUM 2025 : Uncertainty to Transformation ‘ก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงบนโลกที่ไม่แน่นอน’ งานเพื่อคนในวงการประกันภัยที่จะนำทุกคนไปสู่การรู้ทันสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไปและปรับตัวได้ทันก่อนที่ปัญหาต่างๆจะเกิดขึ้นกับธุรกิจประกันภัย
งานนี้รวม Speaker ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆไว้มากมายไม่ว่าจะในวงการประกันภัยเอง หรือในวงการการตลาด AI และ วงการที่เกี่ยวข้อง โดยงานจะจัดในวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ณ TRUE DIGITAL PARK ชั้น 6 ห้อง Auditorium สามารถลงทะเบียนได้แล้วทาง https://www.zipeventapp.com/e/InsureX-FORUM-2025---Uncertainty-to-Transformation ถ้าคุณเป็นคนในวงการประกันภัย ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แอบกระซิบว่าที่นั่งเหลือไม่ถึง 100 ที่แล้วรีบลงก่อนบัตรจะหมด!
โดยก่อนจะไปถึงวันงานทาง Priceza Money ผู้จัดงาน InsureX FORUM ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2นายสิรวิชญ์ ฉายะวาณิชย์ Head of Priceza Money ได้นำข้อมูล ‘4 เทรนด์ประกันรถยนต์ปี 2025’ ข้อมูลที่จะอัพเดทให้คุณรู้ทันการเปลี่ยนแปลงของประกันรถยนต์ในปี 2025 และอนาคตอันใกล้นี้มาให้ฟังกัน
เทรนด์ที่ 1 การบังคับระบุผู้ขับขี่
จากเดิมในปี 2024 เริ่มมีการบังคับใช้กฏใหม่ของประกันรถยนต์กับ ‘ประกันรถยนต์ไฟฟ้า’ ในเงื่อนไขคือ
หากต้องการทำประกันรถยนต์ ต้องมีการระบุผู้ขับขี่ ระบุชื่อคนขับ 1 คนขึ้นไป สูงสุดได้ 5 คน
หากคนขับที่ขับแล้วเกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้มีชื่อระบุอยู่ในกรมธรรม์ จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 6,000 - 8,000 บาทก่อนที่ประกันจะเคลมให้
หากคนขับมีประวัติการขับรถที่ดี ในปีต่อๆไปมีสิทธิ์จะได้รับส่วนลดพฤติกรรมผู้ขับขี่ตั้งแต่ 10% และสูงสุด 40%
*เงื่อนไขนี้ไม่รวมรถเช่า รถรับจ้าง รถแท็กซี่ รถสาธารณะ
และในกฏเกณฑ์ที่ถูกกำหนดข้างต้นนี้ในปี 2025 (1 มิถุนายน 2025) จะถูกนำมาใช้กับ ‘รถยนต์ป้ายแดง’ ที่ต้องการทำประกันรถยนต์ทุกคัน ต่อมาในปี 2026 (1 มกราคม 2026) ก็จะถูกนำมาใช้กับ ‘รถยนต์ทุกคัน’ ที่ต้องการทำประกันรถยนต์ด้วย
โดย Priceza Money มองว่าการบังคับระบุผู้ขับขี่นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดประกันรถยนต์แบบ Personalize Insurance หรือประกันรถยนต์ตามบุคคล ที่จะเปลี่ยนจากการรับประกันรูปแบบเดิมๆที่เป็นการเหมารวม ไปเป็น การกำหนดเบี้ยประกันให้แต่ละบุคคลตามพฤติกรรมการขับและประวัติการเคลม
เทรนด์ที่ 2 EV Insurance
ในปี 2025 คำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดคงจะหนีไม่พ้น ‘ประกันรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันยังแพงกว่ารถยนต์น้ำมันอยู่ไหม?’ คำตอบโดยสรุปคือ ‘ยังแพงกว่า แต่มาก-น้อยต่างกันตามขนาดของรถ’
รถยนต์ city car EV จะแพงกว่าประมาณ 16%
รถยนต์ suv EV จะแพงกว่าประมาณ 30%
รถยนต์ d segment EV จะแพงกว่าประมาณ 48%
โดยในปี 2025 นี้มีแนวโน้มที่ประกันรถยนต์ EV จะแพงขึ้นกว่าในปี 2023-2024 จากเหตุผลหลักๆคือ
อัตราการเคลม และ ราคาอะไหล่ของ EV
บริษัทประกันภัยหยุดใช้ price war ในการดึงลูกค้า
สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของ EV จากประเทศจีน
การซ่อมอู่ที่ยังจัดซ่อมได้ยา
ความท้าทายของประกันรถยนต์ไฟฟ้ายังมีความไม่แน่นอนสูง ไล่มาตั้งแต่ปัญหาของ ‘NETA’ ที่มีปัญหาด้านการเงินจนบริษัทประกันต่างๆหยุดรับประกันภัย หรือ ขึ้นราคาในอัตราส่วนที่สูงมาก (18,000 บาท > 28,000 บาท)
หรือเทคโนโลยีของรถยนต์ที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆทั้งเรื่อง ‘การสลับแบตเตอรี่รถโดยไม่ต้องชาร์จ’ และ ‘รถระบบใหม่ๆอย่าง REEV’ ทำให้บริษัทประกันและวงการประกันภัยรถยนต์ยังต้องมีการจับตารถกลุ่ม EV ต่อไปอย่างใกล้ชิด
เทรนด์ที่ 3 ประกันรถยนต์ออนไลน์
ในปัจจุบันประกันรถยนต์ที่ขายแบบออนไลน์มีราคาที่ถูกกว่าการซื้อกับช่องทางดั้งเดิมอย่างตัวแทนหรือนายหน้าราวๆ 17% คิดเป็นเงินประมาณ 5,000-6,000 บาท แต่กลับยังไม่เป็นที่นิยมในเว็บเปรียบเทียบประกันรถยนต์อย่าง Priceza Money ที่มีอัตราส่วนการเลือกซื้อแบบออนไลน์เพียงแค่ 1 ใน 10 คน เท่านั้น เหตุผลหลักๆมีการคาดการณ์จาก Priceza Money ดังนี้
ขั้นตอนการซื้อยุ่งยากและซับซ้อน สำหรับคนที่ไม่ได้ถนัดทำรายการออนไลน์ (การทำรายการซื้อต้องกรอกข้อมูลเยอะและยาก หลายขั้นตอน) รายละเอียดของประกันรถยนต์มีหลายอย่างต้องเลือก (ชั้นประกัน/ประเภทการซ่อม/ค่าเสียหายส่วนแรก)
บริษัทประกันส่วนใหญ่ยังไม่มีการขายออนไลน์เพราะพึ่งพาช่องทางนายหน้าและตัวแทนเป็นส่วนใหญ่ (หากมีการเปลี่ยนไปขายออนไลน์ก็อาจจะสูญเสียช่องทางการขายหลักในปัจจุบันไป)
แต่สุดท้าย Priceza Money ก็มีการคาดการณ์ไว้ว่าใน 5-6 ปีสัดส่วนของประกันรถยนต์ที่ซื้อผ่านออนไลน์จะมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ และคนขายประกันทั้งตัวแทนและนายหน้าต้องเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ว่า ‘เราจะอยู่ตรงไหนเมื่อประกันรถยนต์ถูกซื้อขายออนไลน์แบบ 100%’ เพราะเมื่อถึงเวลานั้น อาจจะไม่มีเวลาให้คิด
เทรนด์ที่ 4 ประกันซ่อมศูนย์ถูกเลือกน้อยลง
จากสถิติของ Priceza Money ในช่วง 1-2 ปีให้หลัง มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับการเลือก ‘ประกันรถยนต์แบบซ่อมศูนย์’ ว่ามีคนเลือกและสนใจน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเหตุผลหลักๆคือ ‘ประกันซ่อมศูนย์แพงขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา’
เมื่อนำประกันรถยนต์แบบซ่อมศูนย์ไปเปรียบเทียบกับประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ พบว่ามีราคาที่ต่างกันอยู่ที่หลัก 5,000 - 12,000 บาท ซึ่งต่างกันแบบชัดเจนและต่างกันมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา สาเหตุหลักๆมาจากการเคลมและค่าซ่อมของการซ่อมศูนย์มีราคาสูง ประกอบด้วยโปรโมชั่น ‘เคลมสีรอบคันฟรีค่าเสียหายส่วนแรก’ ทำให้ลูกค้าแห่นำรถไปเคลมรอบคัน
เมื่อบริษัทประกันพบว่ามีการเคลมในอัตราสูงจึงมีการปรับเบี้ยประกันรถยนต์แบบซ่อมศูนย์เพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้ผู้ใช้รถเลือกประกันรถยนต์แบบซ่อมศูนย์น้อยลงนั่นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของงาน InsureX FORUM 2025 : Uncertainty to Transformation ‘ก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงบนโลกที่ไม่แน่นอน’ สุดยอดงานอีเวนท์แห่งปีของธุรกิจประกันภัยที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 มิถุนายน 2025 ณ TRUE DIGITAL PARK ชั้น 6 ห้อง Auditorium อย่าลืมลงทะเบียนก่อนที่นั่งจะหมดได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/InsureX-FORUM-2025---Uncertainty-to-Transformation
#InsureXFORUM2025 #InsureXFORUM #InsureX #PricezaMoney